วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2562

ทองชมพูนุท

       วันนี้ขอเสนอเมนูยอดฮิตในปัจจุบันและเป็นขนมไทยโบราณโบราณนั้นก็คือ ทองชมพูนุท ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วไปชมกันเลยยยยย

ทองชมพูนุท

        วันนี้เราจะชวนมาทำ ขนมทองชมพูนุท ขนมไทยโบราณที่เข้ากับเทศกาลวาเลนไทน์สุด ๆ ไปเลยค่ะ บางคนอาจจะจินตนาการรสชาติไม่ออกว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร ให้นึกถึงทองเอกค่ะ ทองชมพูนุทจะรสชาติใกล้เคียงแบบนั้น แต่มีสีชมพู เนื่องจากคำว่าทองชมพูนุท แปลว่า ทองคำเนื้อเก้า เป็นทองบริสุทธิ์ มีสีเหลืองเข้มออกแดง ขนมที่ทำออกมาจึงมีเนื้อแดงเจือชมพูค่ะ เกริ่นมาเยอะละ ไปทำกันดีกว่า

ส่วนผสม ทองชมพูนุท
แป้งข้าวเจ้า 60 กรัม
แป้งข้าวเหนียว 15 กรัม
น้ำตาลทราย 85 กรัม
เกลือ 1/4 ช้อนชา
กะทิ 115 กรัม
ไข่แดง (ไข่ไก่) 2 ฟอง
สีผสมอาหารสีชมพู


        วิธีทำทองชมพูนุท

ทองชมพูนุท

​​​​ ผสมของแห้ง ได้แก่ แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลทราย และเกลือ

ทองชมพูนุท

​​​​ คนให้เข้ากัน

ทองชมพูนุท

  ​​​​ แบ่งใส่กะทิ 2-3 รอบ แล้วคนให้ส่วนผสมมีเนื้อเนียน

 ทองชมพูนุท
กรองส่วนผสมผ่านกระชอน

ทองชมพูนุท

นำส่วนผสมขึ้นตั้งไฟ กวนด้วยไฟอ่อน

ทองชมพูนุท
เมื่อส่วนผสมเริ่มจับตัวเป็นก้อน ให้ ปิดไฟ

 ทองชมพูนุท
   ​​​​ ใส่ไข่แดง แล้วคนส่วนผสมให้เนียนเข้ากันดี

ทองชมพูนุท
เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ เปิดไฟอีกครั้ง กวนต่อด้วยไฟอ่อน

 ทองชมพูนุท
เมื่อส่วนผสมไม่ค่อยติดกระทะแล้ว ให้หยดสีชมพู ลงไป 2-3 หยด

ทองชมพูนุท
   ​​​​ กวนต่อไป (กวนพร้อมบี้แป้งไปด้วย)

ทองชมพูนุท
กวนต่อจนส่วนผสมร่อนออกมาจากกระทะและไม่ติดพาย จะได้ดังรูป

ทองชมพูนุท
​​​​ นำขนมมาผึ่งให้เย็นลง โดยใช้พายตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้ขนมระบายความร้อน

ทองชมพูนุท
เมื่อขนมเย็นแล้ว นำมากดลงพิมพ์ โดยควรกดให้แน่น จะทำให้ขนมที่ได้มีลายคมชัด สวยงาม แล้วค่อย ๆ แกะออกจากพิมพ์ โดยดึงขอบพิมพ์ (ในกรณีที่เป็นพิมพ์ซิลิโคนสามารถดึงได้) แล้วเอานิ้วโป้งกดตรงกลางพิมพ์ให้ขนมค่อย ๆ หลุดออกมา

ทองชมพูนุท
จะได้ขนมทองชมพูนุท ออกมาน่ารัก สวยงาม น่ากิน ถ้าใครมีพิมพ์ทองเอก สามารถนำมาใช้ได้นะคะ แต่ตอนเอาขนมออกจากพิมพ์อาจจะต้องเคาะแรงนิดหนึ่ง

 ทองชมพูนุท
เสร็จแล้วนำไปอบควันเทียนเพิ่มความหอมค่ะ แต่ถ้าใครใช้กะทิอบควันเทียนอยู่แล้วก็สบายเลย ไม่ต้องอบซ้ำจ้า





แหล่งที่มา

ขนมผกากรองไส้ถั่ว

         วันนี้ขอเสนอเมนูยอดฮิตในปัจจุบันและเป็นขนมไทยโบราณโบราณนั้นก็คือขนมผกากรองไส้ถั่ว ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วไปชมกันเลยยยยย

ส่วนผสม
ถั่วเขียวเลาะเปลือก (ส่วนของไส้)250 g
กะทิเรียลไทย (ส่วนของไส้)250 g
น้ำตาลทราย (ส่วนของไส้)100 g
เกลือ หยิบมือ (ส่วนของไส้)
แป้งเค้ก250 g
น้ำตาลทราย50 g
กะทิ (อบควันเทียน)250 g
วิธีทำ
เวลาเตรียมส่วนผสม: 30 นาที
เวลาปรุงอาหาร: 30 นาที
1.วิธีทำไส้ถั่วกวน..

วิธีทำ ขนมผกากรอง

1.ปั่นส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันเนื้อเนียนละเอียดดี
2.กวนไส้ถั่วด้วยไฟอ่อน ๆ จนกระทั่งเนื้อถั่วเนียน แห้งไม่ติดไม้พายเป็นอันเสร็จค่ะ..
3.พักไว้..พอเริ่มเย็นแล้ว ปั้นถั่วกวนเป็นก้อนกลม ๆ รอไว้สำหรับหุ้มด้วยแป้ง
เคล็ดลับ: ถั่วเขียวเลาะเปลือกล้างให้สะอาดจนน้ำใสแล้วแช่น้ำข้ามคืนนะคะ

วิธีทำ ขนมผกากรอง
2.วิธีทำแป้ง..

1.ผสมกะทิ น้ำตาล เกลือ..คนให้ละลายเข้ากัน.. ร่อนแป้งใส่ลงไปแล้วคนให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน..แล้วนำไปกรองเพื่อให้แป้งเนียนขึ้น
2.กวนแป้งด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 10 นาที หรือสังเกตว่าแป้งร่อนออกจากกะทะ ไม่ติดไม้พายเป็นอันใช้ได้

วิธีทำ ขนมผกากรอง

3.พักแป้งให้เย็นหรืออุ่น ๆ ให้พอนวดได้.. นวดแป้งให้เนื้อเนียนนุ่ม..แบ่งแป้งสีขาวนั้นให้เป็นก้อน ๆ นำมาผสมสีอื่น ๆ ตามชอบ

วิธีทำ ขนมผกากรอง
4.ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดพอดีคำ แผ่ออกแล้ววางไส้ถั่วกวนตรงกลางแล้วหุ้มไส้ให้มิด จับจีบด้วยแหนบทองเหลืองแบบใบไม้ค่ะ..ถ้าชอบหลายสีให้หยิบแป้งแต่ละสีมาปั้นด้วยกันจะได้สีสันสวยงามค่ะ




แหล่งที่มา

ข้าวเหนียวขนุน

        สวัสดีค่ะวันนี้ขอเสนอเมนูยอดฮิตในปัจจุบันและเป็นขนมไทยโบราณโบราณนั้นก็คือข้าวเหนียวขนุน ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วไปชมกันเลยยยยย


ข้าวเหนียวขนุน ขนมไทย ข้าวเหนียวมูน เมนูขนุน

สูตรขนมหวาน สำหรับวันนี้ ขอเสนอ ข้าวเหนียวขนุน ขนมหวานแบบง่ายๆ ในช่วงที่มีขนุนสุกออกมามาก ข้าวเหนียวมูน หวานๆ ทานคู่กับ เนื้อขนุนสุก เพิ่มความกลมกล่อม ด้วย น้ำกะทิ หลายๆ คนรู้จัก แต่ ข้าวเหนียวสังขยา ข้าวเหนียวทุเรียน หรือ ข้าวเหนียวมะม่วง แต่ สำหรับ สูตรข้าวเหนียวขนุน เป็น อีกหนึ่ง เมนูข้าวเหนียวมูน แสนอร่อย
สูตรข้าวเหนียวขนุน ขนมไทยยอดนิยม เมนูข้าวเหนียว ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับ คนรักการทำขนมหวาน
ส่วนผสมสำหรับทำข้าวเหนียวขนุน
ขนุน 1 ลูก ( แกะเอาเนื้อขนุนสุก เอาเฉพาะเนื้อขนุน เอาเม็ดขนุนออก )
หัวกะทิ 1 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำตาล 2 ช้อนโต้ะ
ข้าวเหนียวมูน 1 กิโล ดู วิธีทำข้าวเหนียวมูน
ขั้นตอนการทำข้าวเหนียวขนุน
ปลอก ขนุน ออกมา และเอา เม็ดขนุน ออก จากนั้นพัก ขนุน ใส่จานไว้
ทำ กะทิราด โดยต้ม หัวกะทิ ผสม น้ำตาล และ เกลือ ผสมให้เข้ากันจากนั้นพักให้เย็น
นำ ข้าวเหนียวมูน ยัดใส่ ขนุน แทนที่เม็ดขนุน จากนั้นจัดเรียงใส่จานให้สวยงาม ราดด้วย น้ำกะทิ ข้าวเนียวขนุน ขนมไทย ง่ายๆ สำหรับวันนี้
เคล็ดลับการทำข้าวเหนียวขนุน
ขนุน สำหรับ นำมา ทำข้าวเหนียวขนุน นั้น ใช้ขนุนสุก แต่อย่าเลือกขนุนสุกเกินไป เนื่องจาก ขนุนสุกจะอ่อน และหวานเกินไป หาก ขนุนดิบ แข็ง กินไม่ได้
ข้าวเหนียว สำหรัยทำข้าวเกนียวมูน ใช้ ข้าวเหนียวเคี้ยวงูเชียงราย ใช้ ข้าวเหนียวเก่า ซึ่ง ข้าวเหนียวเก่า เหมาะสำหรับนำมาทำ ข้าวเหนียวมูน เนื่องจาก เม็ดสวย อ้วน ไม่เละง่าย
น้ำกะทิ สำหรับทานคู่กับ ข้าวเหนียวขนุน และ นำมามูนข้าวเหนียว ใช้ น้ำกะทิคั้นสดๆ โดยขั้นตอนการคั้นกระทิ ให้กรองน้ำในทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้ มีเศษเจือปน
น้ำตาล ที่เลือกใช้ สำหรับทำขนมไทย ต้องเป็น น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลมะพร้าว ที่มีความหวานที่เหมาะสำหรับ ทำขนมหวาน
ความอร่อยของข้าวเหนียวมูน อยู่ที่ ข้าวเหนียวมูน ที่รสชาติพอดี ไม่หวานเกินไป ไม่เละเกินไป และ กะทิไม่มากเกินไป




แหล่งที่มา

ขนมเข่ง

        สวัสดีค่ะวันนี้ขอเสนอเมนูยอดฮิตในปัจจุบันและเป็นขนมไทยโบราณโบราณนั้นก็คือขนมเข่ง ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วไปชมกันเลยยยยย


ขนมเข่งสองสีสันจาก อัญชันและใบเตย แถมยังเพิ่มความพิเศษด้วยแปะก๊วย และมะพร้าวอ่อน มาดูวิธีทำกัน! 

วัตถุดิบขนมเข่ง

วัตถุดิบ
แป้งข้าวเหนียว 350 กรัม 
กะทิ 300 มิลลิลิตร 
ข้นจืด ตรามะลิโกลด์ 80 มิลลิลิตร
น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
น้ำอัญชันเข้มข้น 3 ช้อนโต๊ะ 
น้ำใบเตยเข้มข้น 3 ช้อนโต๊ะ 
แปะก๊วยเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง
เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเส้น 1 ถ้วยตวง 
น้ำมันพืชสำหรับทากระทง

 วิธีทำ
STEP 1 : ผสมแป้ง
ผสมแป้งข้าวเหนียว กับน้ำตาลปี๊บเข้าด้วยกัน ทยอยเติมน้ำกะทิแล้วนวดไปเรื่อย ๆ ให้น้ำตาลปี๊บละลาย แล้วใส่ ข้นจืด ตรามะลิโกลด์ คนผสมให้เข้ากัน พักแป้งไว้ 1 ชั่วโมง
วิธีทำขนมเข่ง  วิธีทำขนมเข่ง

STEP 2 : ผสมสี
นำแป้งที่พักไว้มาเทกรอง แบ่งเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน แล้วผสมน้ำอัญชันเข้มข้น และน้ำใบเตยเข้มข้น ลงอย่างละถ้วย คนผสมให้เข้ากัน
ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเส้นลงในทั้งสองถ้วย แล้วคนให้เข้ากันอีกที
วิธีทำขนมเข่ง  วิธีทำขนมเข่ง

STEP 3 : นึ่ง
ทากระทงขนมเข่งด้วยน้ำมันพืชบาง ๆ แล้ววางเรียงลงในลังถึง
นำแป้งที่ผสมสีแล้วมาเทลงกระทง แล้ววางมะพร้าวอ่อนหั่นเส้นด้านบนเล็กน้อย ตามด้วยวางแปะก๊วยเชื่อม
นำขึ้นนึ่งไฟระดับกลางเป็นเวลา 25 นาที พอสุกแล้วนำขนมเข่งขึ้น ทาน้ำมันพืชที่ผิวหน้าขนมเข่งอีกครั้ง เพื่อกันขนมแห้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย!
Tip : การเช็กว่าขนมเข่งสุกหรือยัง ให้ใช้ไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มลงไป ถ้าไม่มีแป้งแฉะ ๆ ติดไม้ขึ้นมาเป็นอันใช้ได้ 
วิธีทำขนมเข่ง  วิธีทำขนมเข่ง





แหล่งที่มา


ขนมกระเช้าสีดา

        สวัสดีค่ะวันนี้ขอเสนอเมนูยอดฮิตในปัจจุบันและเป็นขนมไทยโบราณโบราณนั้นก็คือขนมกระเช้าสีดา ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วไปชมกันเลยยยยย


ส่วนผสม..ตัวกระเช้า..
แป้งสาลี.                    2 ถ้วยตวง
ไข่แดง(ไข่ไก่).            1 ฟอง
เนยขาว.                     3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลไอซิ่ง.              2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า.                     1/4 ถ้วยตวง
ส่วนผสม.. มะพร้าวแก้ว..
มะพร้าวขูดขาว.          3 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย               2 ถ้วยตวง
เกลือป่น                      1/2 ข้อนชา
สีผสมอาหาร
น้ำลอยมะลิ                 1 ถ้วยตวง
เทียนอบ
วิธีทำ..
1. มะพร้าวแก้ว ผสมน้ำตาลทราย เกลือ น้ำดอกมะลิ ตั้งไฟอ่อนให้น้ำตาลละลาย เคี่ยวต่อจนเป็นยางมะตูม ใส่มะพร้าวขูดขาวคนลงในน้ำเชื่อมจนจับเส้นมะพร้าวให้ทั่ว แบ่งมะพร้าวใส่สีตามใจชอบ คนจนน้ำเชื่อมแห้งจึงยกลง
2. ตัวกระเช้า นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พักไว้ 20 นาที
3. คลึงให้เป็นแผ่นบางๆ ใช้พิมพ์กลมกดตัดแป้งให้ขาด แล้วนำไปกรุในพิมพ์ให้มีความหนาสม่ำเสมอกัน ก่อนเข้าเตาอบใช้ปลายช้อนแหลมจิ้มส่วนก้นพิมพ์ให้ทั่ว แล้วนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 350 F ใช้เวลาอบประมาณ 15-20 นาที
4. หูกระเช้า ตัดแบ่งแป้งทำเป็นทรงโค้ง แล้วนำไปอบจนเหลือง
วิธีจัดกระเช้า
1. นำมะพร้าวที่กวนเสร็จใส่ในตัวกระเช้าจนเต็ม วางหูกระเช้าบนตัวมะพร้าวแก้วกวนตกแต่งให้สวยงาม
2. นำขนมมาเรียงในภาชนะ เพื่ออบด้วยควันเทียน



แหล่งที่มา

ขนมเสน่ห์จันทร์

       สวัสดีค่ะวันนี้ขอเสนอเมนูยอดฮิตในปัจจุบันและเป็นขนมไทยโบราณโบราณนั้นก็คือขนมเสน่ห์จันทร์ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วไปชมกันเลยยยยย

ขนมเสน่ห์จันทร์

ส่วนผสม
หัวกะทิ 250 กรัม
หางกะทิ 250 กรัม
น้ำตาลทราย 250 กรัม
ใบเตย 2 ใบ
ไข่แดงไข่ไก่ 6 ฟอง
แป้งข้าวเจ้า 40 กรัม
แป้งข้าวเหนียว 40 กรัม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ (คั่วไฟอ่อนสักครู่) 200 กรัม
น้ำก้านดอกกรรณิการ์ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ
ผงโกโก้และลูกจันทน์ป่นอย่างละเล็กน้อย
วิธีทำ
ต้มหัวกะทิ หางกะทิ และน้ำตาลรวมกันจนเดือด ใส่ใบเตย ต้มต่อ 3-4 นาทีจนมีกลิ่นหอม หยิบใบเตยออก พักไว้ให้เย็นหรือพออุ่นๆ
ใส่ไข่แดง คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งสาลี และน้ำก้านดอกกรรณิการ์ กวนทั้งหมดในกระทะทองเหลืองด้วยตะกร้อมือ ใช้ไฟแรงปานกลาง พอเริ่มข้นจึงเปลี่ยนใช้ไม้พาย คนจนล่อนไม่ติดกระทะ (ก้นกระทะจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล) ยกลง
ทำขั้วของลูกจันโดยแบ่งเนื้อขนมออกมาเล็กน้อย ผสมผงโกโก้ 1 ส่วนกับเนื้อขนม 3 ส่วน ใส่ลูกจันทน์ป่น ผสมกันจนเนื้อเป็นสีน้ำตาล ปั้นเป็นก้อนกลมเล็กๆ เตรียมไว้
ปั้นขนมเป็นลูกกลมประมาณ 1 นิ้ว ใช้มือคลึงให้ผิวเรียบ กดให้แบนเล็กน้อย วางขั้วที่ปั้นเตรียมไว้ ใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มให้ขั้วและตัวขนมติดกัน




แหล่งที่มา

ขนมบุหลันดั้นเมฆ

           สวัสดีค่ะวันนี้ขอเสนอเมนูยอดฮิตในปัจจุบันและเป็นขนมไทยโบราณโบราณนั้นก็คือขนมบุหลันดั้นเมฆ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วไปชมกันเลยยยยย
     
วันนี้มาเสนอสูตรขนมโบราณกันหน่อยค่ะ เผื่อคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่รู้จักกับ ขนมบุหลันดั้นเมฆ ขนมสีฟ้าส่วนตรงกลางเป็นสีเหลือง คล้ายๆ พระจันทร์ลอยอยู่กลางท้องฟ้า เป็นขนมเสี่ยงทายของคนสมัยก่อน เกี่ยวกับหน้าที่การงาน หากใครหยอดสีเหลืองตรงกลาง นึ่งแล้วออกมาเป็นรูปดวงจันทร์ที่สวยงามแสดงว่าโชคดี หากนึ่งออกมาแล้วไม่สวยถือว่าโชคไม่ดีนั่นเอง ส่วนตอนนี้จะโชคดีหรือไม่ลองไปทำตามวิธีทำนี้เลยค่ะ

ขนมชาววัง ขนมบุหลันดั้นเมฆ ขนมไทย สูตรขนมบุหลันดั้นเมฆ สูตรทำขนมไทย

ส่วนประกอบ
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
แป้งถั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำดอกมะลิ 3 ถ้วยตวง
ดอกอัญชัน 12-15 ดอก
ไข่ไก่ใช้แต่ไข่แดง 12 ฟอง
น้ำตาลทรายบดละเอียด 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.         ต้มน้ำดอกมะลิ 1 ถ้วยตวงให้เดือดใส่น้ำตาลทรายลงไป พอเดือดสักครู่จึงยกลงทิ้งไว้ให้เย็น
2.         นำดอกอัญชันเด็ดขั้วทิ้ง ล้างเบาๆ ให้สะอาดใส่ไว้ในถ้วยเล็กๆ เทน้ำร้อนจัดลงไป ชง เล็กน้อย จะได้น้ำสีดอกอัญชัน
3.         แป้งข้าวเจ้าใส่ชามรวมกับแป้งถั่ว นวดด้วยน้ำลอยดอกมะลินิดหน่อย นวดไปสักครู่จึงเติมน้ำทั้งหมดลงไปละลายให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง และสีอัญชัน 1-2 ช้อนชา
4.         เรียงถ้วยตะไลเล็กๆ ในลังถึง นึ่งในน้ำเดือดพล่าน จนถ้วยร้อนจัด คนแป้งให้ทั่วแล้วตักหยอดให้ถ้วยเต็มโดยเร็ว เสร็จแล้วปิดฝาลังถึงนึ่งไปประมาณ 1 นาที แป้งจะจับขอบถ้วยเล็กน้อย เปิดฝาแล้วนำลังถึงลง หยิบถ้วยขนมเทแป้งส่วนที่ยังไม่สุกออกทุกถ้วย
5.       ใช้ไข่แดงผสมกับน้ำตาลบดละเอียด ตักหยอดกลางถ้วยแทนที่แป้ง เทออกจนเต็ม นึ่งขนมต่อไปจนสุก ยกลงปล่อยให้เย็นจึงใช้ไม้พายเล็กๆ แคะขนมเรียงใส่จาน




แหล่งที่มา

ทองชมพูนุท

        วันนี้ขอเสนอเมนูยอดฮิตในปัจจุบันและเป็นขนมไทยโบราณโบราณนั้นก็คือ …  ทองชมพูนุท  ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วไปชมกันเลยยยยย          ว...